..... แต่กลับแก้ไขในแนวทาง/รูปแบบการเล่นทั้งระบบ
ในยุคซิโก้ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ต่างประเทศก็ชื่นชมเยอะ แต่คนไทยกลับด่ากันเอง แม้ระดับเอเชียยังขั้นไม่ถึง แต่ก็เห็นจุดอ่อนพอจะแก้ได้ แต่ไม่ใช่การเปลี่ยนรูปแบบทั้งระบบ
เด็กมันสับสนในรูปแบบคาเตนัชโช่ ซึ่งมันเล่นยาก แม้อิตาลีในยุคนี้ยังลำบาก ถ้าไม่เข้าใจแท๊กติก ไม่มีกองกลาง กองหน้าดีๆ ก็โดนกดจนโง่หัวไม่ขึ้น เห็นชัดๆนี้สองนัด คือ ทีมชาติไทยชุดใหญ่นัดนอกบ้านกับออสเตรเลีย กับ u 23 นัดล่าสุดเจอกับญี่ปุ่น
การเล่นแท๊กติกไม่ต้องใช้แท๊กติกเดียวเสมอไป ขึ้นอยู่กับคู่ต่อสู้ แต่สิ่งที่เห็น ไทยใช้แท๊กติกเดียวแม้เจอกับทีมที่มาตรฐานอ่อนกว่า ผมว่ามันตลก และหลายคนก็รับไม่ได้
เอาจริงๆ ผมไม่เคยเห็นทีมชาติไหนที่ประสบความสำเร็จเล่นฟุตบอล แต่ขัดกับธรรมชาติการเล่นในลีกของตนเอง เห็นก็ประเทศไทยนี้แหละ ฉะนั้น ทีมชาติเล่นแบบคาเตนัชโช่ แต่ธรรมชาติของลีกเล่นอีกแบบหนึ่ง ความเข้าใจแท๊กติกจะมีอะไร
ผมไม่ค่อยมีโอกาสเห็นทีมไทยลีกเล่นเท่าใดนัก แต่พอจะเห็นว่า ทีมในไทยลีกไม่ได้เน้นเล่นแบบคาเตนัชโช่ แต่หากเล่นแบบต่อบอล ใช้ความสามารถเฉพาะตัว แม้เล่นช้า เพรสช้า ก็ถือว่าเป็นสไตน์
อนาคตบอลไทยควรพัฒนาจุดอ่อน มาเป็นจุดแข็ง คือ เอาธรรมชาติของตัวเองมาเป็นจุดแข็ง
เท่าที่ดูตลอดทั้งเกม เด็กไทยไม่ได้ขี้เหร่ เพียงแต่แท๊กติกที่ใส่ไป มันจำกัดศักยภาพการเล่นของนักเตะ ส่งผลต่อความมั่นใจในความสามารถของตน ทำให้ดูเหมือนว่าไม่ได้เรื่อง ไม่มีของ
โดยหลักการจิตวิทยา การใช้คาเตนัชโช่มันมีผลต่อสภาพจิตใจและมั่นใจในความสามารถ เพราะจะทำเห็นว่าตนเป็นทีมที่ด้อยกว่า จึงต้องใช้รูปแบบการเล่นแบบนั้น ผมเห็นว่า นักเตะไทยกำลังตกอยู่ในสภาพนั้น จึงถูกกดจนโง่หัวไม่ขึ้น ตั้งแต่ต้นจนจบเกม เพราะความไม่มั่นใจ ไม่กล้าทำเกม มันไม่เหมือนกับอิตาลีที่เล่นคาเตนัชโช่โดยไม่มีสภาพจิตใจอย่างนั้น
ทำไมสมาคมฟุตบอลไม่แก้ไขจุดอ่อนในยุคซิโก้
ในยุคซิโก้ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ต่างประเทศก็ชื่นชมเยอะ แต่คนไทยกลับด่ากันเอง แม้ระดับเอเชียยังขั้นไม่ถึง แต่ก็เห็นจุดอ่อนพอจะแก้ได้ แต่ไม่ใช่การเปลี่ยนรูปแบบทั้งระบบ
เด็กมันสับสนในรูปแบบคาเตนัชโช่ ซึ่งมันเล่นยาก แม้อิตาลีในยุคนี้ยังลำบาก ถ้าไม่เข้าใจแท๊กติก ไม่มีกองกลาง กองหน้าดีๆ ก็โดนกดจนโง่หัวไม่ขึ้น เห็นชัดๆนี้สองนัด คือ ทีมชาติไทยชุดใหญ่นัดนอกบ้านกับออสเตรเลีย กับ u 23 นัดล่าสุดเจอกับญี่ปุ่น
การเล่นแท๊กติกไม่ต้องใช้แท๊กติกเดียวเสมอไป ขึ้นอยู่กับคู่ต่อสู้ แต่สิ่งที่เห็น ไทยใช้แท๊กติกเดียวแม้เจอกับทีมที่มาตรฐานอ่อนกว่า ผมว่ามันตลก และหลายคนก็รับไม่ได้
เอาจริงๆ ผมไม่เคยเห็นทีมชาติไหนที่ประสบความสำเร็จเล่นฟุตบอล แต่ขัดกับธรรมชาติการเล่นในลีกของตนเอง เห็นก็ประเทศไทยนี้แหละ ฉะนั้น ทีมชาติเล่นแบบคาเตนัชโช่ แต่ธรรมชาติของลีกเล่นอีกแบบหนึ่ง ความเข้าใจแท๊กติกจะมีอะไร
ผมไม่ค่อยมีโอกาสเห็นทีมไทยลีกเล่นเท่าใดนัก แต่พอจะเห็นว่า ทีมในไทยลีกไม่ได้เน้นเล่นแบบคาเตนัชโช่ แต่หากเล่นแบบต่อบอล ใช้ความสามารถเฉพาะตัว แม้เล่นช้า เพรสช้า ก็ถือว่าเป็นสไตน์
อนาคตบอลไทยควรพัฒนาจุดอ่อน มาเป็นจุดแข็ง คือ เอาธรรมชาติของตัวเองมาเป็นจุดแข็ง
เท่าที่ดูตลอดทั้งเกม เด็กไทยไม่ได้ขี้เหร่ เพียงแต่แท๊กติกที่ใส่ไป มันจำกัดศักยภาพการเล่นของนักเตะ ส่งผลต่อความมั่นใจในความสามารถของตน ทำให้ดูเหมือนว่าไม่ได้เรื่อง ไม่มีของ
โดยหลักการจิตวิทยา การใช้คาเตนัชโช่มันมีผลต่อสภาพจิตใจและมั่นใจในความสามารถ เพราะจะทำเห็นว่าตนเป็นทีมที่ด้อยกว่า จึงต้องใช้รูปแบบการเล่นแบบนั้น ผมเห็นว่า นักเตะไทยกำลังตกอยู่ในสภาพนั้น จึงถูกกดจนโง่หัวไม่ขึ้น ตั้งแต่ต้นจนจบเกม เพราะความไม่มั่นใจ ไม่กล้าทำเกม มันไม่เหมือนกับอิตาลีที่เล่นคาเตนัชโช่โดยไม่มีสภาพจิตใจอย่างนั้น